ข่าว:

Exness ลงทะเบียนระบบใหม่ ใส่รหัสพาร์ทเนอร์ 73208
https://www.exness.com/boarding/sign-up/a/73208?lng=th
1. เลือกประเทศ ไทย
2. อีเมล์จริงของคุณ
3. รหัสผ่าน
* รหัสผ่านต้องมีความยาว 8-15 ตัว
* ใช้ทั้งอักษรตัวพิมพ์ใหญ่และตัวพิมพ์เล็ก
* ใช้ทั้งตัวเลขและตัวอักษรภาษาอังกฤษ
* ห้ามใช้อักขระพิเศษ (!@#$%^&*., และอื่นๆ)
4. ใส่รหัสพาร์ทเนอร์ 73208

Main Menu

exness รอบรู้ศาสตร์แห่งการเทรดคริปโตรายวัน: กลยุทธ์ เคล็ดลับ และข้อผิดพลาด

เริ่มโดย junjao, มิถุนายน 22, 2024, 11:39:24 AM

« หน้าที่แล้ว - ต่อไป »

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

junjao

exness รอบรู้ศาสตร์แห่งการเทรดคริปโตรายวัน: กลยุทธ์ เคล็ดลับ และข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยง

เปิดบัญชี Standard ได้ที่ https://www.exness.com/th/crypto/intraday-trading/a/73208

ไม่ว่าคุณจะเป็นเทรดเดอร์มากประสบการณ์หรือเพิ่งเริ่มเทรดคริปโต คำแนะนำนี้ก็เหมาะกับคุณ ในคำแนะนำฉบับนี้ เราจะกล่าวถึงกลยุทธ์และรูปแบบการเทรดที่ใช้ในการเทรดรายวัน โดยเน้นไปที่คริปโตเคอร์เรนซีโดยเฉพาะ รวมถึงข้อดีและความท้าทายของการเทรดรายวันกับคริปโต

การเทรดรายวันคืออะไร
ก่อนที่เราจะลงลึกในหัวข้อนี้ เรามาดูความหมายของศัพท์คำนี้กันก่อน การเทรดรายวันคืออะไร การเทรดรายวันคือการซื้อและขายหลักทรัพย์ เช่น หุ้น คู่สกุลเงิน คอมโมดิตี้ หรือคริปโตเคอร์เรนซี ภายในวันที่มีการซื้อขายเดียวกัน เพื่อหลีกเลี่ยงการรับความเสี่ยงของตลาดในช่วงข้ามคืน

รูปแบบการเทรดแบบรายวันสำหรับคริปโตประเภทที่ 1: การเทรดแบบ Scalping
รูปแบบการเทรดรายวันที่เคลื่อนไหวรวดเร็วที่สุดคือการเทรดแบบ Scalping โดยมีจุดประสงค์เพื่อมุ่งกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาเพียงเล็กน้อย

การเทรดแบบ Scalping มาจากห้องค้าแบบเก่าที่มีการทำข้อตกลงกันด้วย "การส่งคำสั่งซื้อขายด้วยการตะโกนส่งสัญญาณมือ (Open Outcry)" เทรดเดอร์ในห้องค้าที่เป็น Scalper จะนั่งอยู่ตรงข้ามกับโบรกเกอร์ที่ดำเนินการคำสั่งของลูกค้า นั่นเป็นเหตุผลที่อีกชื่อหนึ่งของ Scalper คือ "ผู้ดูแลสภาพคล่อง" (Market Maker)

ปัจจุบัน Scalper เป็นเทรดเดอร์บนหน้าจอปกติที่ใช้เลเวอเรจสูงและเทรดอย่างรวดเร็ว เพื่อพยายามเทรดตามโมเมนตัมระยะสั้นหรือเทรดการกลับตัวของราคาใกล้ระดับแนวรับหรือแนวต้าน โดยปกติแล้ว Scalper จะถือสถานะเป็นวินาทีหรือนาทีเท่านั้น

คริปโตเคอร์เรนซีได้ชื่อว่าค่อนข้างมีความผันผวนเทียบกับกลุ่มสินทรัพย์อื่นๆ แต่ก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป เช่น ในฤดูร้อนปี 2023 ความผันผวนของ Bitcoin อยู่ในระดับต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ และตลาดก็ไม่มีการเคลื่อนไหวมากนัก เวลาเช่นนี้เหมาะกับการเทรดแบบ Scalping เนื่องจากเทรดเดอร์สามารถเทรดได้แม้ในสภาพแวดล้อมที่มีความผันผวนต่ำ เพราะ Scalper ไม่ได้ต้องการกำไรจำนวนมากและอาจออกจากตลาดเมื่อมีกำไรเล็กน้อยเพียงไม่กี่ปิ๊ป

ข้อดีและข้อเสียในการเทรดแบบ Scalping ด้วยคริปโต
ข้อดีของการเทรดแบบ Scalping
การเทรดแบบ Scalping อาจเป็นวิธีที่เร็วที่สุดในการสร้างบัญชีให้เติบโตหากทำอย่างเหมาะสม
Scalper มีปริมาณการเทรดสูงกว่าเทรดเดอร์ประเภทอื่น เนื่องจากเมื่อเทรดมากขึ้น ก็จะมีโอกาสได้กำไรมากขึ้น
Scalper ไม่แบกรับความเสี่ยงจากการถือสถานะข้ามคืน ซึ่งสำคัญอย่างยิ่งในคริปโต เพราะราคาอาจดิ่งลงกะทันหันในเวลากลางคืน
Scalper ทำงานเฉพาะเมื่ออยู่หน้าจอเท่านั้น จึงไม่จำเป็นต้องถือสถานะและตกเป็นเหยื่อให้กับความผันผวนที่ไม่คาดคิด
ข้อเสียของการเทรดแบบ Scalping
ต้องอาศัยสติและสมาธิอย่างมาก
วิธีนี้มีต้นทุนสูงกว่าต้นทุนการเทรดปกติ (ในรูปแบบของสเปรด) ตลาดคริปโตมีต้นทุนสูงกว่าต้นทุนปกติ เนื่องจากคริปโตเคอร์เรนซีมีความผันผวนค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับตลาดสกุลเงินตรา ผู้ดูแลสภาพคล่องในคริปโตจึงมักจำเป็นต้องเรียกเก็บสเปรดที่สูงกว่าเมื่อเทรด BTC, ETH และสินทรัพย์ที่ใกล้เคียงกัน
Scalper ทั่วไปต้องมีอัตราการทำกำไรสูงจึงจะมีกำไรมากพอ
ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นจะเป็นบทเรียนที่มีราคาแพงกว่าสำหรับ Scalper เมื่อเทียบกับเทรดเดอร์ประเภทอื่น เนื่องจากโอกาสทำกำไรของ Scapler มีจำกัด จำนวนการเทรดที่ได้กำไรจะต้องสูงเสมอ
การเทรดแบบ Scalping มักเป็นรูปแบบที่แนะนำสำหรับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์มากกว่า เนื่องจากต้องอาศัยปริมาณการซื้อขายสูงและต้นทุนที่สูง และจำเป็นต้องจับตาดูการเคลื่อนไหวของราคาอย่างใกล้ชิดขณะที่เปิดคำสั่งซื้อขายอยู่ ไม่ว่าคุณจะเทรดคริปโตหรอกลุ่มสินทรัพย์อื่นๆ ที่ Exness เราขอแนะนำให้ทดลองเทรดในบัญชีทดลองหรือบัญชี Standard Cent ก่อน

รูปแบบการเทรดแบบรายวันสำหรับคริปโตประเภทที่ 2: การเทรดทำกำไรระยะสั้นรายวัน
โดยทั่วไปแล้ว การเทรดทำกำไรระยะสั้นรายวันเป็นรูปแบบการเทรดที่มีความถี่น้อยกว่าการเทรดแบบ Scalping และมักหมายถึงการเทรดรายวันเพียงหนึ่งครั้งหรือเพียงไม่กี่ครั้งต่อวัน คุณอาจใช้รูปแบบการเทรดนี้ในช่วงขึ้นของ BTCUSD, ETHUSD หรือสินทรัพย์คริปโตอื่นๆ เนื่องจากอาจมีการทะลุกรอบครั้งใหญ่และมีอัตราส่วนกำไร/ขาดทุนที่ดีในการเทรดของคุณ

หมายเหตุ: ราคามีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ได้อย่างจำกัดภายในหนึ่งวัน วันที่ราคาเคลื่อนไหวรุนแรงนั้นมักเกิดขึ้นน้อย ดังนั้น เทรดเดอร์จะต้องเลือกเทรดอย่างรอบคอบเป็นพิเศษ เนื่องจาก "สัญญาณรบกวน" ในการเคลื่อนไหวของราคาและความรุนแรงในการกลับตัวที่บางช่วงระดับราคาอาจมีสูง อย่างไรก็ตาม อาจมี "โอกาสครั้งใหญ่" จากความผันผวนที่ผิดปกติ ซึ่งอาจเกิดขึ้นในช่วง "Bull Run" คือช่วงเวลาที่ราคาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หรือ "Panic Sell" คือการขายด้วยความตื่นตระหนก
อย่างไรก็ตาม จังหวะเวลาเป็นหัวใจสำคัญสำหรับเทรดเดอร์รายวันที่ประสบความสำเร็จเมื่อเทรดคริปโต โดยไม่เพียงต้องคาดการณ์เป้าหมายราคาอย่างรอบคอบ แต่ยังจำเป็นต้องเข้าถือสถานะด้วยความเสี่ยงที่ต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และวาง Stop Loss ป้องกันไว้อย่างรัดกุมเป็นพิเศษ

นี่จึงเป็นเหตุผลที่การเทรดรายวันมักถูกมองว่าเป็นงานประจำมากกว่าการทำงานอดิเรกสบายๆ ผ่านหน้าจอแล็ปท็อปบนเก้าอี้ริมชายหาด อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์สามารถเทรดได้ทุกที่ทั่วโลก หากคุณมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่เชื่อถือได้และสามารถมีสมาธิอยู่กับตลาดการเงิน

กลยุทธ์การเทรดรายวันสำหรับการเทรดคริปโต
กลยุทธ์การเทรดรายวันต่างๆ ที่เทรดเดอร์รายวันในตลาดคริปโตเคอร์เรนซีใช้จะขึ้นอยู่กับรูปแบบการเทรดของเทรดเดอร์แต่ละราย เช่น หากคุณเป็นเทรดเดอร์รายวันที่มองหาโอกาสในการเทรดดีๆ สักครั้งในแต่ละวัน คุณอาจลองหา Pivot Point และจุดกลับตัวที่อาจเกิดขึ้นภายในวันนั้น เรามาดูการเทรดประเภทนี้อย่างละเอียดกัน

กลยุทธ์การเทรดรายวันประเภทที่ 1: การหา Pivot Point
Pivot Point ที่เป็นไปได้อาจเกิดขึ้นบริเวณแนวรับหรือแนวต้านที่สำคัญ ดังที่แสดงในตัวอย่างด้านล่าง โดย BTCUSD ถึงระดับ 29700 ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดระยะกลางตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคม หลังจากทดสอบระดับนี้ ก็มีแรงซื้อกลับเข้ามาในตลาด ทำให้เทรดเดอร์รายวันสามารถเทรดตามการดึงกลับนี้ได้ ความแตกต่างเพียงเล็กน้อยคือการเคลื่อนไหวของราคาที่กล่าวถึงเกิดขึ้นในช่วงสายของเขตเวลายุโรป หมายความว่ามีเทรดเดอร์เพียงส่วนน้อยที่อยู่ใกล้หน้าจอของตัวเองเมื่อเกิดเหตุการณ์นี้

กลยุทธ์การเทรดรายวันประเภทที่ 2: การเทรดคริปโตรายวันตามโมเมนตัม
การเทรดตามโมเมนตัมนั้นมีมาตั้งแต่ตลาดถือกำเนิดขึ้น แม้ว่าจะดูสมเหตุสมผลที่จะลอง "ซื้อที่ราคาต่ำ" และ "ขายที่ราคาสูง" แต่เทรดเดอร์รายวันที่ประสบความสำเร็จซึ่งเทรดตามโมเมนตัมจะมุ่งซื้อในราคาที่ "สูงแล้ว" เพื่อขายในราคาที่ "สูงขึ้นไปอีก" ความน่าดึงดูดใจของการเทรดตามโมเมนตัมคือกลยุทธ์นี้อาจทำให้เทรดเดอร์รายวันได้กำไรค่อนข้างเร็ว เนื่องจากโมเมนตัมที่เร่งตัวขึ้นจะผลักดันราคาขึ้นไปอย่างรวดเร็วด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น

กลยุทธ์การเทรดรายวันประเภทที่ 3: การเทรดเมื่อทะลุกรอบราคาในตลาดคริปโต
การทะลุกรอบราคาเป็นการเคลื่อนไหวของราคาอย่างรวดเร็วที่ผลักดันราคาให้ข้ามขอบเขตที่มีการสะสมของราคาหรือรูปแบบกราฟ หรือผ่านเส้นแนวโน้มของแนวโน้มที่มีการปรับฐานราคา ด้านล่างคือตัวอย่างการทะลุกรอบราคาที่เกิดขึ้นกับ BTCUSD ในเดือนกรกฎาคม 2023

ตัวอย่างการทะลุกรอบที่ตามมาด้วยการกลับตัวและการปรับตัวลงกะทันหัน แล้วปิดต่ำกว่าราคาเปิด
ตัวอย่างเช่น การทะลุกรอบราคาของ BTCUSD ในวันที่ 23 กรกฎาคม 2023 หลังจากการทะลุกรอบอย่างรวดเร็ว ราคาก็กลับตัวและปิดต่ำกว่าราคาเปิด

ในตัวอย่างนี้ เห็นได้ชัดว่าการทะลุกรอบราคาเป็นไปอย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะจบลงอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม สำหรับเทรดเดอร์รายวัน นี่อาจเป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมในการเทรดรายวันด้วยสถานะ Long เนื่องจากคุณอาจสามารถวาง Stop Loss ใกล้ๆ และรับกำไรพอสมควรอย่างรวดเร็วภายในวัน การทะลุกรอบราคาในบางครั้งอาจไม่ดำเนินต่อเนื่องอย่างแข็งแกร่ง ด้วยเหตุนี้ ตลาดคริปโตจึงต้องอยู่ภายในระยะ "ขาขึ้นต่อเนื่อง" อย่างไรก็ตาม สำหรับเทรดเดอร์รายวัน การเคลื่อนไหวภายในวันระยะสั้นๆ ก็ยังอาจมีอัตราส่วนกำไร/ขาดทุนที่ดี

กลยุทธ์การเทรดรายวันประเภทที่ 4: การเทรดรายวันตามแนวโน้มในคริปโต
สำหรับการเทรดภายในวันตามแนวโน้มในตลาดคริปโต เราให้ความสำคัญกับการเคลื่อนไหวของราคาที่รวดเร็วและผันผวนที่มีระยะเวลาเพียงสองวัน แทนที่จะใช้แนวโน้มระยะกลางหรือยาวที่ใช้เวลาเป็นสัปดาห์หรือเดือน แนวโน้มที่มีระยะเวลานานขึ้นสำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์เหล่านี้แบ่งเป็นกลยุทธ์หลายประเภท เช่น การสวิงเทรดและการเทรดระยะยาว เทรดเดอร์รายวันที่ช่ำชองซึ่งมองหาแนวโน้มระยะสั้นอาจใช้กลยุทธ์ของตนเองสำหรับการเทรดรายวัน เพื่อเทรดให้สอดคล้องกับแนวโน้มนี้ในช่วงเวลาหลายวันติดต่อกันจนกว่าแนวโน้มจะสิ้นสุด

ด้านผู้ที่เทรดตรงกันข้ามกับแนวทางนี้คือสวิงเทรดเดอร์และเทรดเดอร์ที่ถือสถานะระยะยาวมักจะต้องการ "ซื้อเมื่อราคาต่ำ" โดยคาดหวังว่าจะเริ่มมีการแกว่งตัวไปในทิศทางของแนวโน้มครั้งใหม่ แต่เทรดเดอร์รายวันมักทำกำไรจากโมเมนตัมด้วยการเทรดตามแนวโน้มในกลยุทธ์ของตนเอง เทรดเดอร์รายวันที่ประสบความสำเร็จมักใช้วิธีนี้ในการเทรดตลาดคริปโตที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

เรามาดูตัวอย่างด้านล่างของ BTCUSD กัน

ตัวอย่างการดึงกลับของราคาไปยังเส้นค่าเฉลี่ยที่มีโอกาสเข้าถือสถานะ Long ในการเทรดคริปโตรายวัน
ตัวอย่างเช่น แนวโน้มของ BTCUSD ในเดือนตุลาคม 2023 ราคาดึงกลับไปยังเส้นค่าเฉลี่ย (50) เป็นโอกาสที่เทรดเดอร์จะเข้าเทรดในสถานะ Long

เมื่อแนวโน้มเริ่มต้นในเดือนตุลาคม 2023 ราคาได้ทะลุกรอบราคาระยะสั้นหลายครั้ง หลังจากนั้น ราคาก็ดึงกลับมายังเส้นค่าเฉลี่ย 50 ในกราฟราย 60 นาที นี่เป็นตัวชี้วัดที่กำหนดเองสำหรับใช้บ่งชี้ แต่นั่นก็เป็นหลักการที่สามารถใช้ได้ทั้งในกรอบราคาสั้นๆ และกราฟรายวัน โดยแนวโน้มที่กำลังดำเนินอยู่อาจมีการดึงกลับชั่วคราวไปยังแนวรับ ในตัวอย่างนี้ แนวรับนี้แทนด้วยอินดิเคเตอร์เส้นค่าเฉลี่ย เทรดเดอร์รายวันในตลาดคริปโตจึงอาจใช้จุดดังกล่าวให้เป็นประโยชน์และเทรดตามทิศทางของแนวโน้ม

แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกแนวโน้มของคริปโตจะดำเนินต่อเนื่อง แต่หากระบุได้ถูกต้อง แนวโน้มจะแสดงทิศทางที่ชัดเจน และคุณต้องให้ความสำคัญกับจังหวะเวลาและการดำเนินการคำสั่งซื้อขาย

ความท้าทายในการเทรดคริปโตรายวัน
การเทรดแต่ละรูปแบบมาพร้อมกับความท้าทาย และการเทรดรายวันก็เช่นเดียวกัน

ในมุมหนึ่ง เทรดเดอร์รายวันพยายามจะไม่ถือสถานะข้ามคืนเพื่อความสบายใจ การเทรดคริปโตรายวันอาจทำให้เทรดเดอร์จำเป็นต้องเผชิญกับความผันผวนภายในวัน ซึ่งอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่น่าหงุดหงิดใจ การถูกบังคับขายครั้งใหญ่และการปั่นราคาเป็นเรื่องที่ค่อนข้างปกติสำหรับตลาดคริปโต แม้แต่กับ Bitcoin โดย Altcoin อาจมีความผันผวนมากกว่า BTCUSD ในการเคลื่อนไหวของราคาทั้งสองด้าน

เป็นเรื่องยากที่ต้องรอคอยหลายชั่วโมงเพื่อจะได้เทรดในโอกาสที่เหมาะสม แต่แล้วเมื่อคุณเข้าเทรดได้ ราคาก็เปลี่ยนแปลงจนทำให้กำไรที่เทรดมาทั้งวันหายไปในเวลาเพียงไม่กี่นาที เหตุการณ์นี้อาจเกิดขึ้นได้จากข่าวทางการเงินหรือการประกาศข้อมูลที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ที่ไม่คาดคิด เป็นต้น อย่างไรก็ตาม บางครั้งตลาดคริปโตก็อาจเคลื่อนไหวโดยไม่จำเป็นต้องมีข่าวทางการเงินใดๆ ซึ่งในกรณีนี้อาจเป็นผลมาจากข่าวลือบนโซเชียลมีเดียที่เกิดขึ้นกับคริปโตอยู่ตลอดเวลาและอาจก่อให้เกิดผลกระทบที่คล้ายกัน

เทรดเดอร์ควรมีสติเมื่อรู้สึกหงุดหงิดและผิดหวังเพราะอาจกดดันให้ตนเอง "เทรดเพื่อเอาคืน" และนำไปสู่ภาวะการเทรดมากเกินไปในที่สุด

ภาวะการเทรดมากเกินไปในการเทรดรายวัน
ภาวะการเทรดมากเกินไปเกี่ยวข้องกับการเทรดที่มากเกินความจำเป็น ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากการเทรดด้วยอารมณ์ที่ว้าวุ่น หรือการเทรดที่อาจอธิบายได้ว่าเป็น "เชิงระบบ" แม้อาจไม่เหมาะสมกับเงื่อนไขการเทรดในปัจจุบัน

หากเราสร้างสถิติการเทรดและเปรียบเทียบจำนวนการเทรด ภาวะการเทรดมากเกินไปจะหมายถึงการเทรดจำนวนมากที่มีผลลัพธ์เป็นลบ หากพิจารณาจากต้นทุนการเทรดที่สูงขึ้นเนื่องจากคริปโต ภาวะการเทรดเครื่องมือทางการเงินนี้มากเกินไปอาจก่อให้เกิดปัญหาที่รุนแรงสำหรับเทรดเดอร์รายวัน

รูปแบบภาวะการเทรดมากเกินไปสุดคลาสสิกมีลักษณะดังนี้คือปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นมีความสัมพันธ์กับการขาดทุนอย่างมาก ซึ่งเป็นผลโดยตรงจากภาวะการเทรดมากเกินไป หากคุณคิดว่าตัวเองกำลังเป็นเช่นนั้น คุณไม่ได้เป็นเช่นนั้นคนเดียว มีเทรดเดอร์รายวันจำนวนมากที่กำลังเผชิญปัญหานี้อยู่เช่นกัน

รูปแบบภาวะการเทรดมากเกินไป
แหล่งที่มา: บทวิเคราะห์ส่วนบุคคลเกี่ยวกับผลการเทรดของตัวอย่างเทรดเดอร์จากบริการ https://en.webmarketstat.ru/

วิธีหลีกเลี่ยงภาวะการเทรดมากเกินไป
เทรดเดอร์รายวันมืออาชีพส่วนใหญ่ในตลาดคริปโตใช้การจัดการความเสี่ยงที่ปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ คือพวกเขาอาจลดปริมาณการซื้อขายลงหากขาดทุนภายในบางวัน จนกว่าจะกลับมามั่นใจและเริ่มเทรดได้กำไรอีกครั้ง นี่ไม่ใช่พฤติกรรมการเทรดสำหรับเทรดเดอร์คริปโตโดยเฉพาะ เทรดเดอร์มืออาชีพในทุกตลาดก็มันปฏิบัติเช่นนี้

เทรดเดอร์รายวันบางส่วนเทรดเฉพาะในบางช่วงเวลาเท่านั้นและจำกัดจำนวนการเทรดของตนเองด้วย วิธีนี้ไม่เหมาะกับ Scalper เนื่องจาก Scalper จำเป็นต้องเทรดอย่างต่อเนื่อง แต่การจัดการความเสี่ยงที่ปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์จะมีประโยชน์อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะใช้รูปแบบการเทรดใด ทั้งการเทรดแบบ Scalping หรือการเทรดทำกำไรระยะสั้นรายวัน ก็จำเป็นที่จะต้องหลีกเลี่ยงการสะสมความเครียดมากเกินไป เพื่อป้องกันภาวะหมดไฟ

หลักการง่ายๆ ในเรื่องนี้คือการพักเบรก ลดขนาดการเทรดลงสักระยะ หรืออาจเปลี่ยนไปใช้บัญชี Cent หรือบัญชีทดลองชั่วคราว เพื่อเรียกความมั่นใจกลับคืนมา ตลาดมีวันพรุ่งนี้เสมอ และเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องรักษาเงินต้นและสุขภาพจิตของคุณ อย่าเทรดรายวันหนักเกินไป ให้ความสำคัญกับคุณภาพการเทรดของคุณ ไม่ใช่ปริมาณ

เครื่องมือทางการเงินที่ควรเลือกใช้ในการเทรดรายวัน
อีกแง่มุมหนึ่งที่สำคัญของการเทรดคริปโตรายวันคือการเลือกเครื่องมือทางการเงินที่เหมาะสม

เทรดเดอร์รายวันไม่ค่อยประสบความสำเร็จในการเทรดหลายๆ ตลาดและใช้หลายๆ หน้าจอ จึงควรเลือกเครื่องมือทางการเงินไม่เกินสองตัวและจดจ่ออยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเครื่องมือทางการเงินเหล่านั้นเท่านั้น

Bitcoin และ Ether เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในกรณีนี้ เนื่องจากมีความผันผวนของตลาดและสภาพคล่องเพียงพอที่จะหลีกเลี่ยงการเกิดราคาคลาดเคลื่อนและสเปรดสูงขึ้นได้ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเครื่องมือทางการเงินคริปโตที่มีสภาพคล่องน้อยอาจส่งผลให้เกิดราคาคลาดเคลื่อนและสเปรดสูงขึ้น

เลือกเครื่องมือทางการเงินของคุณอย่างรอบคอบและคำนึงถึงอารมณ์หุนหันพลันแล่นและความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้ เพื่อหลีกเลี่ยงความเครียดและภาวะหมดไฟ ดูคู่สกุลเงินคริปโตทั้งหมดที่ Exness ให้บริการ

การเทรดรายวันหรือการเทรดระยะยาวที่เหมาะกับคุณ
อย่างที่คุณทราบอยู่แล้ว ไม่มีกลยุทธ์หรือรูปแบบการเทรดใดที่ไม่มีทางผิดพลาดเลย การเทรดทุกครั้งมาพร้อมกับความเสี่ยงเสมอ จึงเป็นเหตุผลที่ควรทราบว่ารูปแบบการเทรดใดเหมาะกับการใช้ชีวิตและเป้าหมายของคุณเป็นอันดับแรก แล้วจึงเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสม

การเทรดรายวันจำเป็นต้องมีความมุ่งมั่นและสมาธิที่จดจ่ออยู่ตลอดเวลา ขณะที่รูปแบบการเทรดระยะยาวส่วนใหญ่ เช่น การถือสถานะระยะยาวและแม้แต่การสวิงเทรด อาจเหมาะกับรูปแบบการใช้ชีวิตที่ยุ่งกว่าและมีเวลาเฝ้าหน้าจอน้อยกว่า

ที่มา https://www.exness.com/th/crypto/intraday-trading/a/73208
MT4 MT5 EA Indicator EURUSD USDJPY XAUUSD Gold Bitcoin Oil
สอบถาม 081-446-5311 , line : junjaocom , Email : jun_jao2000@hotmail.com
สมัคร Exness ได้ที่ https://www.exness.com/a/73208
หน้าลงทะเบียน Exness ได้ที่ https://www.exness.com/boarding/sign-up/a/73208?lng=th
ขั้นตอนสมัคร exness https://www.junjao.com/board/index.php?topic=279

x [close]
x [close]