• Welcome to จั่นเจาดอทคอม ถามตอบ คอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ต Forex MT4 MT5 เทรดทอง .
 

News:

Exness ลงทะเบียนระบบใหม่ ใส่รหัสพาร์ทเนอร์ 73208
https://www.exness.com/boarding/sign-up/a/73208?lng=th
1. เลือกประเทศ ไทย
2. อีเมล์จริงของคุณ
3. รหัสผ่าน
* รหัสผ่านต้องมีความยาว 8-15 ตัว
* ใช้ทั้งอักษรตัวพิมพ์ใหญ่และตัวพิมพ์เล็ก
* ใช้ทั้งตัวเลขและตัวอักษรภาษาอังกฤษ
* ห้ามใช้อักขระพิเศษ (!@#$%^&*., และอื่นๆ)
4. ใส่รหัสพาร์ทเนอร์ 73208
---------------------------------------------------------
exness เปิดบัญชีลูกค้าใหม่ 4-31 มี.ค. 2568 รับโบนัท Rebate
เงินคืนจากการเทรด EURUSD 1 Lot Rebate 1.5 USD  ,
Gold 1 Lot  Rebate 2.80 USD , BTCUSD 1 Lot Rebate 5.74 USD
เปิดบัญชี Standard ได้ที่ https://exness.com/intl/th/a/73208
แจ้ง ID ที่เปิด ได้ที่ Line : junjaocom

Main Menu

มหาวิทยาลัย กับ มหาวิทยาลัยราชภัฎ แตกต่างกันอย่างไร

Started by junjao, April 15, 2025, 10:24:22 AM

Previous topic - Next topic

0 Members and 5 Guests are viewing this topic.

junjao

"มหาวิทยาลัย" กับ "มหาวิทยาลัยราชภัฏ" ต่างก็เป็นสถาบันอุดมศึกษาเหมือนกัน แต่มีความแตกต่างกันในหลายๆ ด้าน ทั้งที่มา หน้าที่ และเป้าหมายหลักของการจัดการศึกษา ดังนี้:

---

### 🏫 **มหาวิทยาลัยทั่วไป**
**ตัวอย่าง:** จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ฯลฯ

- **ลักษณะ:** เป็นมหาวิทยาลัยของรัฐหรือเอกชน ที่มุ่งเน้นงานวิจัย การผลิตบัณฑิต และพัฒนาองค์ความรู้ในระดับสูง
- **การวิจัย:** เน้นการทำวิจัยขั้นสูง ทั้งด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคมศาสตร์ ฯลฯ
- **กลุ่มเป้าหมาย:** นักเรียนจากทั่วประเทศ หรือแม้แต่นักศึกษาต่างชาติ
- **ชื่อเสียงและแรงดึงดูด:** โดยทั่วไป มหาวิทยาลัยเหล่านี้มักมีชื่อเสียงสูง และการแข่งขันสูงในการสอบเข้า

---

### 🎓 **มหาวิทยาลัยราชภัฏ**
**ตัวอย่าง:** มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่, มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ฯลฯ

- **ลักษณะ:** เดิมคือ "วิทยาลัยครู" ต่อมาพัฒนาเป็น "สถาบันราชภัฏ" และปัจจุบันคือ "มหาวิทยาลัยราชภัฏ"
- **พันธกิจหลัก:** มุ่งเน้นการพัฒนาท้องถิ่น สนับสนุนการศึกษาในชุมชน ผลิตครู และพัฒนาบุคลากรในภูมิภาค
- **การวิจัย:** เน้นการวิจัยเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นหรือชุมชน
- **กลุ่มเป้าหมาย:** นักเรียนในพื้นที่หรือภูมิภาคใกล้เคียง
- **จุดเด่น:** ค่าธรรมเนียมการเรียนมักไม่สูง และมีความเชื่อมโยงกับโรงเรียนและหน่วยงานในท้องถิ่น

---

### 🧭 สรุปเปรียบเทียบ

| หัวข้อ | มหาวิทยาลัยทั่วไป | มหาวิทยาลัยราชภัฏ |
|--------|----------------------|------------------------|
| จุดมุ่งหมาย | วิจัย พัฒนาองค์ความรู้ | พัฒนาท้องถิ่น ผลิตครู |
| การวิจัย | ขั้นสูง ระดับชาติ/นานาชาติ | เชิงท้องถิ่น/ประยุกต์ใช้ |
| กลุ่มเป้าหมาย | ทั่วประเทศ/นานาชาติ | นักศึกษาในภูมิภาค |
| ค่าใช้จ่าย | อาจสูงกว่า | ค่อนข้างประหยัด |
| ประวัติ | มาจากสถาบันอุดมศึกษาโดยตรง | เดิมเป็นวิทยาลัยครู |

---

ถ้าอยากรู้ว่ามหาวิทยาลัยแบบไหนเหมาะกับตัวเอง อาจต้องดูเป้าหมายของเราเป็นหลัก เช่น อยากเป็นครูในภูมิลำเนา หรืออยากเป็นนักวิจัยระดับประเทศ ฯลฯ

------------------------------------------------------

มหาวิทยาลัยทั่วไปกับมหาวิทยาลัยราชภัฏในประเทศไทยมีความแตกต่างกันในหลายด้าน ดังนี้:

1. **ที่มาและวัตถุประสงค์**:
   - **มหาวิทยาลัยทั่วไป**: อาจเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐหรือเอกชน มุ่งเน้นการผลิตบัณฑิตที่มีความรู้ในสาขาวิชาต่าง ๆ ทั้งด้านวิชาการและวิชาชีพ รวมถึงการวิจัยเพื่อพัฒนาองค์ความรู้ โดยครอบคลุมหลากหลายสาขา เช่น มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
   - **มหาวิทยาลัยราชภัฏ**: เดิมคือ "วิทยาลัยครู" ต่อมาได้รับการยกฐานะเป็นมหาวิทยาลัยราชภัฏตามพระราชบัญญัติในปี 2547 มีเป้าหมายหลักเพื่อพัฒนาท้องถิ่น ส่งเสริมการศึกษาและวิชาชีพครู รวมถึงผลิตบัณฑิตที่ตอบสนองความต้องการของชุมชนในภูมิภาค เช่น มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย

2. **ภารกิจหลัก**:
   - **มหาวิทยาลัยทั่วไป**: มุ่งเน้นทั้งการสอน การวิจัย และการให้บริการวิชาการ โดยบางแห่งอาจมีชื่อเสียงในระดับนานาชาติหรือเน้นสาขาเฉพาะ เช่น วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การแพทย์
   - **มหาวิทยาลัยราชภัฏ**: เน้นการพัฒนาท้องถิ่นเป็นหลัก รวมถึงการผลิตครูที่มีคุณภาพ และการให้บริการชุมชนในพื้นที่ตั้งของมหาวิทยาลัย

3. **สาขาวิชาที่เปิดสอน**:
   - **มหาวิทยาลัยทั่วไป**: มีความหลากหลายมากกว่า ครอบคลุมตั้งแต่วิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ ไปจนถึงสาขาเฉพาะทาง เช่น วิศวกรรมศาสตร์ การแพทย์
   - **มหาวิทยาลัยราชภัฏ**: เดิมเน้นสาขาการศึกษาและครุศาสตร์ ปัจจุบันขยายไปสู่สาขาอื่น ๆ เช่น บริหารธุรกิจ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี แต่ยังคงเน้นการตอบโจทย์ท้องถิ่น

4. **จำนวนและที่ตั้ง**:
   - **มหาวิทยาลัยทั่วไป**: มีทั้งในเมืองใหญ่และภูมิภาค เช่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยมหิดล
   - **มหาวิทยาลัยราชภัฏ**: มี 38 แห่งทั่วประเทศ กระจายในทุกภูมิภาค เพื่อให้เข้าถึงชุมชนท้องถิ่น

5. **งบประมาณและการบริหาร**:
   - **มหาวิทยาลัยทั่วไป**: หากเป็นของรัฐจะได้รับงบประมาณจากรัฐบาล ส่วนเอกชนบริหารด้วยทุนของตัวเอง
   - **มหาวิทยาลัยราชภัฏ**: เป็นมหาวิทยาลัยของรัฐ อยู่ภายใต้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ได้รับงบประมาณจากรัฐบาล และมีนโยบายชัดเจนในการพัฒนาท้องถิ่น

6. **ภาพลักษณ์และการรับรู้**:
   - **มหาวิทยาลัยทั่วไป**: บางแห่งมีชื่อเสียงในระดับชาติหรือนานาชาติ เช่น มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
   - **มหาวิทยาลัยราชภัฏ**: มักถูกมองว่าเป็นสถาบันที่เน้นการพัฒนาท้องถิ่นและผลิตครู แต่อาจไม่ได้รับการยอมรับในระดับสากลเท่ามหาวิทยาลัยทั่วไปบางแห่ง

สรุปคือ มหาวิทยาลัยทั่วไปมีขอบเขตการทำงานที่กว้างและหลากหลายกว่า ส่วนมหาวิทยาลัยราชภัฏเน้นการพัฒนาท้องถิ่นและการผลิตครูเป็นหลัก แต่ทั้งสองก็มีบทบาทสำคัญในระบบการศึกษาของไทย
------------------------------------------------------

มหาวิทยาลัยราชภัฏในประเทศไทยมีทั้งหมด 38 แห่ง กระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาค ดังรายชื่อต่อไปนี้:

1. มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา (กรุงเทพมหานคร)
2. มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม (กรุงเทพมหานคร)
3. มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี (กรุงเทพมหานคร)
4. มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา (กรุงเทพมหานคร)
5. มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร (กรุงเทพมหานคร)
6. มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ (จังหวัดเชียงใหม่)
7. มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย (จังหวัดเชียงราย)
8. มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง (จังหวัดลำปาง)
9. มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ (จังหวัดอุตรดิตถ์)
10. มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร (จังหวัดกำแพงเพชร)
11. มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ (จังหวัดนครสวรรค์)
12. มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม (จังหวัดพิษณุโลก)
13. มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ (จังหวัดเพชรบูรณ์)
14. มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม (จังหวัดมหาสารคาม)
15. มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด (จังหวัดร้อยเอ็ด)
16. มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร (จังหวัดสกลนคร)
17. มหาวิทยาลัยราชภัฏกาฬสินธุ์ (จังหวัดกาฬสินธุ์)
18. มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา (จังหวัดนครราชสีมา)
19. มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ (จังหวัดบุรีรัมย์)
20. มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ (จังหวัดสุรินทร์)
21. มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี (จังหวัดอุบลราชธานี)
22. มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ (จังหวัดศรีสะเกษ)
23. มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี (จังหวัดอุดรธานี)
24. มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย (จังหวัดเลย)
25. มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ (จังหวัดชัยภูมิ)
26. มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม (จังหวัดนครปฐม)
27. มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี (จังหวัดกาญจนบุรี)
28. มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี (จังหวัดเพชรบุรี)
29. มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ (จังหวัดฉะเชิงเทรา)
30. มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ (จังหวัดปทุมธานี)
31. มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี (จังหวัดลพบุรี)
32. มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา (จังหวัดพระนครศรีอยุธยา)
33. มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี (จังหวัดสุราษฎร์ธานี)
34. มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช (จังหวัดนครศรีธรรมราช)
35. มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (จังหวัดสงขลา)
36. มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา (จังหวัดยะลา)
37. มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต (จังหวัดภูเก็ต)
38. มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี (จังหวัดจันทบุรี)

มหาวิทยาลัยราชภัฏเหล่านี้ตั้งอยู่ในจังหวัดต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาการศึกษาและชุมชนท้องถิ่นทั่วประเทศไทย[](https://en.wikipedia.org/wiki/Rajabhat_universities)
---------------------------------------------------

มหาวิทยาลัยในประเทศไทยมีจำนวนมาก ครอบคลุมทั้งมหาวิทยาลัยของรัฐ มหาวิทยาลัยเอกชน มหาวิทยาลัยราชภัฏ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล รวมถึงสถาบันอื่น ๆ ที่มีสถานะเทียบเท่า เนื่องจากจำนวนทั้งหมดมีมากกว่า 100 แห่ง การระบุชื่อทุกแห่งอาจยาวเกินไป ดังนั้น ฉันจะสรุปประเภทและยกตัวอย่างเด่น ๆ พร้อมแนะนำวิธีค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมหากต้องการรายชื่อทั้งหมด

### ประเภทของมหาวิทยาลัยในประเทศไทย
1. **มหาวิทยาลัยของรัฐ (Public Universities)** 
   - เป็นสถาบันที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล บางแห่งมีสถานะเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับ (Autonomous Universities) ที่บริหารจัดการตนเอง 
   - ตัวอย่าง: 
     - จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (กรุงเทพฯ) 
     - มหาวิทยาลัยมหิดล (นครปฐม) 
     - มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (เชียงใหม่) 
     - มหาวิทยาลัยขอนแก่น (ขอนแก่น) 
     - มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (สงขลา)

2. **มหาวิทยาลัยราชภัฏ (Rajabhat Universities)** 
   - มี 38 แห่ง เน้นการพัฒนาท้องถิ่นและผลิตครู (ตามที่ระบุในคำถามก่อนหน้า) 
   - ตัวอย่าง: 
     - มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา (กรุงเทพฯ) 
     - มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ (เชียงใหม่) 
     - มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา (นครราชสีมา)

3. **มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (Rajamangala Universities of Technology)** 
   - มี 9 แห่ง เน้นด้านเทคโนโลยีและวิชาชีพ 
   - ตัวอย่าง: 
     - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (ปทุมธานี) 
     - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา (เชียงใหม่) 
     - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (นครราชสีมา)

4. **มหาวิทยาลัยเอกชน (Private Universities)** 
   - บริหารโดยเอกชน มักเน้นสาขาวิชาที่ตอบโจทย์ตลาด เช่น ธุรกิจ เทคโนโลยี 
   - ตัวอย่าง: 
     - มหาวิทยาลัยกรุงเทพ 
     - มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC) 
     - มหาวิทยาลัยรังสิต 
     - มหาวิทยาลัยศรีปทุม

5. **สถาบันเฉพาะทางและอื่น ๆ** 
   - เช่น สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (KMITL) สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (KMUTNB) หรือสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA)

### จำนวนโดยประมาณ
จากข้อมูลล่าสุด (จนถึงปี 2025) ประเทศไทยมีสถาบันอุดมศึกษารวมประมาณ 310 แห่ง (รวมวิทยาลัยและสถาบันอื่น ๆ) โดยในจำนวนนี้เป็นมหาวิทยาลัยประมาณ 123 แห่ง (แบ่งเป็นรัฐ 81 แห่ง และเอกชน 42 แห่ง)[](https://studyabroadaide.com/all-universities-thailand/)

### วิธีค้นหารายชื่อทั้งหมด
เนื่องจากรายชื่อทั้งหมดมีจำนวนมากและอาจมีการเปลี่ยนแปลง (เช่น การควบรวมหรือเปิดใหม่) แนะนำให้ดูข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เช่น:
- **เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.)**: www.mua.go.th 
- **ฐานข้อมูลออนไลน์**: เช่น www.4icu.org/th หรือ www.topuniversities.com 
- **Wikipedia**: มีรายชื่อมหาวิทยาลัยในประเทศไทยแยกตามประเภท (เช่น List of universities and colleges in Thailand)[](https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_universities_and_colleges_in_Thailand)

### คำแนะนำเพิ่มเติม
หากต้องการรายชื่อเฉพาะเจาะจง เช่น ในจังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง หรือเฉพาะสาขาวิชา (เช่น วิศวกรรมศาสตร์ แพทยศาสตร์) สามารถแจ้งเพิ่มเติมได้ ฉันจะช่วยค้นหาและจัดลำดับให้เหมาะสม!

**หมายเหตุ**: รายชื่อที่ให้ในคำตอบนี้เป็นเพียงตัวอย่างเด่น ๆ ไม่ครอบคลุมทั้งหมด เพราะจำนวนมากและเพื่อให้คำตอบกระชับตามหลักการตอบสั้นที่สุดเท่าที่จำเป็น
----------------------------------------------------
MT4 MT5 EA Indicator EURUSD USDJPY XAUUSD Gold Bitcoin Oil
สอบถาม 081-446-5311 , line : junjaocom , Email : jun_jao2000@hotmail.com
สมัคร Exness ได้ที่ https://www.exness.com/a/73208
หน้าลงทะเบียน Exness ได้ที่ https://www.exness.com/boarding/sign-up/a/73208?lng=th
ขั้นตอนสมัคร exness https://www.junjao.com/board/index.php?topic=279

junjao

MT4 MT5 EA Indicator EURUSD USDJPY XAUUSD Gold Bitcoin Oil
สอบถาม 081-446-5311 , line : junjaocom , Email : jun_jao2000@hotmail.com
สมัคร Exness ได้ที่ https://www.exness.com/a/73208
หน้าลงทะเบียน Exness ได้ที่ https://www.exness.com/boarding/sign-up/a/73208?lng=th
ขั้นตอนสมัคร exness https://www.junjao.com/board/index.php?topic=279