• Welcome to จั่นเจาดอทคอม ถามตอบ คอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ต Forex MT4 MT5 เทรดทอง .
 

News:

Exness ลงทะเบียนระบบใหม่ ใส่รหัสพาร์ทเนอร์ 73208
https://www.exness.com/boarding/sign-up/a/73208?lng=th
1. เลือกประเทศ ไทย
2. อีเมล์จริงของคุณ
3. รหัสผ่าน
* รหัสผ่านต้องมีความยาว 8-15 ตัว
* ใช้ทั้งอักษรตัวพิมพ์ใหญ่และตัวพิมพ์เล็ก
* ใช้ทั้งตัวเลขและตัวอักษรภาษาอังกฤษ
* ห้ามใช้อักขระพิเศษ (!@#$%^&*., และอื่นๆ)
4. ใส่รหัสพาร์ทเนอร์ 73208
---------------------------------------------------------
exness เปิดบัญชีลูกค้าใหม่ 4-31 มี.ค. 2568 รับโบนัท Rebate
เงินคืนจากการเทรด EURUSD 1 Lot Rebate 1.5 USD  ,
Gold 1 Lot  Rebate 2.80 USD , BTCUSD 1 Lot Rebate 5.74 USD
เปิดบัญชี Standard ได้ที่ https://exness.com/intl/th/a/73208
แจ้ง ID ที่เปิด ได้ที่ Line : junjaocom

Main Menu

Recent posts

#91
**Tether (USDT) ERC-20** คือ เหรียญคริปโตเคอร์เรนซีที่ออกโดยบริษัท **Tether Limited** และเป็น **Stablecoin** ที่มีมูลค่าผูกกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ในอัตรา **1 USDT ≈ 1 USD** โดยใช้เครือข่าย **Ethereum (ERC-20)** เป็นมาตรฐานของโทเค็น

### 🔹 คุณสมบัติของ USDT (ERC-20)
1. **มาตรฐาน ERC-20** – ทำงานบนเครือข่าย Ethereum ทำให้สามารถใช้งานกับกระเป๋าเงิน (wallet) และแพลตฟอร์มที่รองรับ ERC-20 ได้อย่างสะดวก
2. **เสถียรภาพของมูลค่า** – มูลค่าผูกกับเงินดอลลาร์ ทำให้มีความผันผวนน้อยกว่าสกุลเงินคริปโตอื่น ๆ เช่น Bitcoin หรือ Ethereum
3. **การโอนที่รวดเร็ว** – สามารถโอน USDT ผ่าน Ethereum blockchain ได้รวดเร็วและโปร่งใส
4. **ค่าธรรมเนียมการโอน** – มีค่า Gas Fee ตามเครือข่าย Ethereum ซึ่งอาจสูงขึ้นในบางช่วงที่เครือข่ายแออัด

### 🔹 การใช้งาน USDT (ERC-20)
- ใช้เป็น **สื่อกลางแลกเปลี่ยน** ในตลาดคริปโต
- ใช้เป็น **ที่เก็บมูลค่า** เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของคริปโตอื่น ๆ
- ใช้ **โอนเงินข้ามประเทศ** ได้รวดเร็วและค่าธรรมเนียมถูกกว่าธนาคารแบบดั้งเดิม
- ใช้เป็น **หลักประกัน** ในการเทรด Futures หรือ DeFi

### 🔹 วิธีเก็บรักษา USDT (ERC-20)
สามารถเก็บไว้ในกระเป๋าเงินที่รองรับ Ethereum ERC-20 เช่น
- **MetaMask**
- **Trust Wallet**
- **Ledger / Trezor (Hardware Wallet)**
- **Exchange ต่าง ๆ เช่น Binance, Bitkub, OKX ฯลฯ** (แต่การเก็บใน Exchange มีความเสี่ยงจากการถูกแฮ็ก)

🔸 **ข้อควรระวัง** 
USDT มีหลายมาตรฐาน (เช่น ERC-20 บน Ethereum, TRC-20 บน Tron, BEP-20 บน BNB Chain) ดังนั้นก่อนโอนต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าใช้งานเครือข่ายเดียวกัน มิฉะนั้นเหรียญอาจสูญหายได้

💡 **สรุป** 
USDT ERC-20 คือเวอร์ชันของ USDT ที่อยู่บนเครือข่าย Ethereum ใช้ประโยชน์จากความปลอดภัยและการรองรับของ ERC-20 แต่ต้องคำนึงถึงค่าธรรมเนียม Gas ที่อาจสูงในบางช่วงเวลา

หากต้องการใช้งาน USDT แบบค่าธรรมเนียมถูกลง อาจพิจารณา **USDT TRC-20 (Tron)** หรือ **USDT BEP-20 (BNB Chain)** 🚀
----------------------------------------------
#92
การจัดหมวดหมู่หนังสือสามารถทำได้หลายวิธีขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการจัดเก็บและการใช้งาน โดยหลัก ๆ มีระบบการจัดหมวดหมู่ที่นิยมใช้กันดังนี้ 

### **1. การจัดหมวดหมู่ตามระบบมาตรฐาน** 
ใช้ในห้องสมุดหรือศูนย์เอกสาร 

- **ระบบทศนิยมดิวอี้ (Dewey Decimal Classification - DDC)** 
  แบ่งหนังสือออกเป็น 10 หมวดหลัก โดยใช้ตัวเลขทศนิยม เช่น 
  - 000 - ความรู้ทั่วไป 
  - 100 - ปรัชญาและจิตวิทยา 
  - 200 - ศาสนา 
  - 300 - สังคมศาสตร์ 
  - 400 - ภาษา 
  - 500 - วิทยาศาสตร์ 
  - 600 - เทคโนโลยี 
  - 700 - ศิลปะและนันทนาการ 
  - 800 - วรรณคดี 
  - 900 - ประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ 

- **ระบบหอสมุดรัฐสภาอเมริกัน (Library of Congress Classification - LCC)** 
  ใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษกำหนดหมวดหลัก เช่น 
  - A - วิชาทั่วไป 
  - B - ปรัชญาและศาสนา 
  - C - ประวัติศาสตร์ทั่วไป 
  - D - ประวัติศาสตร์โลก 
  - E, F - ประวัติศาสตร์อเมริกา 
  - G - ภูมิศาสตร์และมานุษยวิทยา 
  - H - สังคมศาสตร์ 
  - J - รัฐศาสตร์ 
  - K - กฎหมาย 
  - L - การศึกษา 
  - M - ดนตรี 
  - N - ศิลปะ 
  - P - ภาษาและวรรณคดี 
  - Q - วิทยาศาสตร์ 
  - R - แพทยศาสตร์ 
  - S - เกษตรศาสตร์ 
  - T - เทคโนโลยี 
  - U - วิทยาการทหาร 
  - V - วิทยาการทางเรือ 
  - Z - บรรณารักษศาสตร์ 

---

### **2. การจัดหมวดหมู่ตามประเภทของหนังสือ** 
ใช้ในร้านหนังสือหรือห้องสมุดขนาดเล็ก 
- หนังสือเรียน / ตำรา 
- วรรณกรรม / นิยาย 
- หนังสือพัฒนาตนเอง 
- หนังสือศาสนา 
- หนังสือประวัติศาสตร์ 
- หนังสือธุรกิจ 
- หนังสือสุขภาพและจิตวิทยา 

---

### **3. การจัดหมวดหมู่ตามชื่อผู้แต่งหรือชื่อเรื่อง** 
เหมาะกับการจัดในรูปแบบส่วนตัวหรือร้านค้า 
- เรียงตามลำดับอักษรของชื่อหนังสือ 
- เรียงตามลำดับอักษรของชื่อผู้แต่ง 

---

### **4. การจัดหมวดหมู่ตามสีหรือขนาดของหนังสือ** 
วิธีนี้มักใช้ในห้องสมุดหรือชั้นหนังสือเพื่อความสวยงาม 

---

### **5. การจัดหมวดหมู่ตามหมวดหมู่เฉพาะขององค์กร** 
บางองค์กรหรือห้องสมุดเฉพาะทางอาจพัฒนาระบบหมวดหมู่ของตัวเอง เช่น 
- ห้องสมุดกฎหมาย 
- ห้องสมุดการแพทย์ 
- ห้องสมุดวิศวกรรม 

---

หากต้องการเลือกวิธีการจัดหนังสือ ควรพิจารณาตามการใช้งาน ความสะดวก และขนาดของคอลเลกชันหนังสือที่มีอยู่ 😊
#93
"ฌาน 4" หรือ "จาน 4" (ในภาษาไทย) คือขั้นตอนที่สูงสุดของการเจริญสติหรือการปฏิบัติสมาธิในทางพระพุทธศาสนา ซึ่งหมายถึงการเข้าสู่สถานะที่มีสมาธิอย่างลึกซึ้งจนถึงจุดที่ไม่มีความคิดและความรู้สึกเกี่ยวข้อง โดยภายในฌานที่ 4 นี้ บุคคลจะรู้สึกถึงความสงบที่สุด เป็นการหยุดนิ่งจากความคิดหรือความรู้สึกใดๆ ทั้งสิ้น

ฌาน 4 มีลักษณะสำคัญคือ:

1. **สมาธิลึก**: เป็นการฝึกสมาธิที่เข้มข้น จนทำให้ความรู้สึกและการรับรู้ที่เป็นรูปธรรมทั้งหมดหายไป
2. **ความรู้สึกสงบ**: จิตใจจะสงบและใสจนไม่สามารถระลึกถึงสิ่งใดได้เลย
3. **ความรู้สึกไม่มีความเจ็บปวด**: ไม่มีความเจ็บปวดหรือความสับสนเกิดขึ้นในภาวะนี้

การบรรลุฌานที่ 4 จึงถือเป็นขั้นสูงสุดของการพัฒนาจิตใจในการฝึกสมาธิ โดยส่วนใหญ่จะช่วยให้บุคคลเข้าใจถึงการปล่อยวางจากทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ได้มากขึ้น
-----------------------------------------------
ฌาน 4 คือ ภาวะที่จิตสงบและตั้งมั่นในระดับต่างๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติสมาธิในพระพุทธศาสนา มี 4 ขั้นตอน ได้แก่

## 1. ปฐมฌาน

*   เป็นฌานขั้นแรกที่ผู้ปฏิบัติจะละวางนิวรณ์ 5 ประการ ได้แก่ ความพอใจในกาม ความพยาบาท ความหดหู่ท้อแท้ ความฟุ้งซ่านรำคาญ และความลังเลสงสัย
*   จิตจะรวมอยู่ในอารมณ์เดียว มีองค์ประกอบ 5 อย่าง คือ วิตก (การตรึกตรอง) วิจาร (การพิจารณา) ปีติ (ความอิ่มเอมใจ) สุข (ความสุข) และเอกัคคตา (ความมีจิตใจแน่วแน่)

## 2. ทุติยฌาน

*   เมื่อจิตสงบมากขึ้น วิตกและวิจารจะดับไป เหลือเพียงปีติ สุข และเอกัคคตา
*   จิตจะมีความสงบและสว่างมากขึ้น

## 3. ตติยฌาน

*   ขั้นนี้ปีติจะดับไป เหลือเพียงสุขและเอกัคคตา
*   ผู้ปฏิบัติจะรู้สึกถึงความสุขที่ละเอียดอ่อนและสงบ

## 4. จตุตถฌาน

*   เป็นฌานขั้นสูงสุดที่สุขจะดับไป เหลือเพียงอุเบกขา (ความวางเฉย) และเอกัคคตา
*   จิตจะเป็นกลาง ไม่ยินดียินร้ายต่อสิ่งใดๆ มีความสงบและตั้งมั่นอย่างสมบูรณ์

การเข้าฌานทั้ง 4 ขั้นนี้ เป็นการฝึกจิตให้สงบและมีสมาธิ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการเจริญวิปัสสนาเพื่อบรรลุธรรมขั้นสูงต่อไป
----------------------------------------------
ฌาน 4 หรือ จตุตถฌาน (จตุตถะ + ฌาน) เป็นระดับสูงสุดของรูปฌานในพุทธศาสนา หมายถึง ภาวะที่จิตสงบและเป็นหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ปราศจากความสุขและทุกข์ทางกาย มีแต่ความสงบและความตั้งมั่นเท่านั้น

ลักษณะของฌาน 4:
1. **อุเบกขา**: ความวางเฉย ไม่ยินดียินร้าย
2. **เอกัคคตา**: จิตตั้งมั่นเป็นหนึ่ง
3. **สติบริสุทธิ์**: สติที่บริสุทธิ์และมั่นคง

ในฌานนี้ จิตจะละเอียดและมั่นคงมาก ไม่มีทั้งสุขและทุกข์ทางกาย เหลือเพียงอุเบกขาและเอกัคคตาเท่านั้น

ฌาน 4 เป็นพื้นฐานสำหรับการเข้าถึงอรูปฌานและวิปัสสนา เพื่อบรรลุธรรมขั้นสูงต่อไป
#94
วิกฤตเศรษฐกิจที่ส่งผลให้ดัชนีราคาหุ้นไทยตกต่ำในรอบ 50 ปี มีดังนี้

*   **วิกฤตต้มยำกุ้งในปี พ.ศ. 2540** วิกฤตการณ์ในครั้งนั้นเกิดขึ้นจากความผันผวนของค่าเงินบาท ดัชนีตลาดหุ้นไทยดิ่งลงเหวอย่างหนัก โดยในวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2540 ดัชนี SET ลดลงไปถึง 11.27% นับเป็นการลดลงมากที่สุดในหนึ่งวัน
*   **วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ในปี พ.ศ. 2551** วิกฤตการณ์นี้มีต้นกำเนิดจากสหรัฐอเมริกาและลุกลามไปทั่วโลก ดัชนี SET ทำจุดต่ำสุดที่ 383.97 จุดในวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551
*   **วิกฤตโควิด-19 ในปี พ.ศ. 2563** การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ตลาดหุ้นไทยผันผวนอย่างหนัก ดัชนี SET ทำจุดต่ำสุดในรอบหลายปีที่ 969.08 จุด ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2563

นอกจากนี้ ยังมีเหตุการณ์สำคัญอื่น ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทย เช่น ความขัดแย้งทางการเมือง และภัยธรรมชาติ ซึ่งอาจทำให้ดัชนีราคาหุ้นปรับตัวลดลงได้เช่นกัน
---------------------------------------
วิกฤตเศรษฐกิจที่ส่งผลให้ดัชนีราคาหุ้นไทยตกต่ำในรอบ 50 ปี มีดังนี้

*   **วิกฤตต้มยำกุ้งในปี พ.ศ. 2540** วิกฤตการณ์ในครั้งนั้นเกิดขึ้นจากความผันผวนของค่าเงินบาท ดัชนีตลาดหุ้นไทยดิ่งลงเหวอย่างหนัก โดยในวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2540 ดัชนี SET ลดลงไปถึง 11.27% นับเป็นการลดลงมากที่สุดในหนึ่งวัน
*   **วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ในปี พ.ศ. 2551** วิกฤตการณ์นี้มีต้นกำเนิดจากสหรัฐอเมริกาและลุกลามไปทั่วโลก ดัชนี SET ทำจุดต่ำสุดที่ 383.97 จุดในวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551
*   **วิกฤตโควิด-19 ในปี พ.ศ. 2563** การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ตลาดหุ้นไทยผันผวนอย่างหนัก ดัชนี SET ทำจุดต่ำสุดในรอบหลายปีที่ 969.08 จุด ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2563

นอกจากนี้ ยังมีเหตุการณ์สำคัญอื่น ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทย เช่น ความขัดแย้งทางการเมือง และภัยธรรมชาติ ซึ่งอาจทำให้ดัชนีราคาหุ้นปรับตัวลดลงได้เช่นกัน
-----------------------------------
ตลาดหุ้นไทยหรือตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ก่อตั้งขึ้นในปี 2512 ดังนั้นระยะเวลา 50 ปีนับจากนั้นจะสิ้นสุดในปี 2562 อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่คุณระบุเกี่ยวกับ "ดัชนีราคาหุ้นไทยต่ำสุดในรอบ 50 ปี" อาจไม่ชัดเจน เนื่องจากดัชนี SET มีการปรับตัวขึ้นลงตลอดเวลา และการระบุปีที่ดัชนีต่ำสุดอาจขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่พิจารณา

ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา ดัชนี SET เคยปรับตัวลงอย่างมากในช่วงวิกฤตการณ์ต่าง ๆ เช่น:

1. **วิกฤตต้มยำกุ้ง (2540)** - ดัชนี SET ปรับตัวลงอย่างรุนแรงจากวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2540 ซึ่งส่งผลให้ดัชนีลดลงจากระดับสูงสุดกว่า 1,700 จุดเหลือต่ำกว่า 300 จุดในปี 2541

2. **วิกฤตการเงินโลก (2551)** - ดัชนี SET ปรับตัวลงจากวิกฤตการเงินโลกในปี 2551 โดยลดลงจากระดับสูงสุดกว่า 900 จุดเหลือต่ำกว่า 400 จุดในปี 2552

3. **วิกฤต COVID-19 (2563)** - ดัชนี SET ปรับตัวลงในช่วงต้นปี 2563 จากผลกระทบของ COVID-19 โดยลดลงจากระดับสูงสุดกว่า 1,600 จุดเหลือต่ำกว่า 1,000 จุดในช่วงสั้น ๆ

หากคุณต้องการข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น เช่น ปีที่ดัชนี SET แตะระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปี คุณอาจต้องตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งข้อมูลทางการตลาดหรือติดต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยตรง
#95
จากการรวบรวมข้อมูล ณ​ เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2567 ยังไม่มีการจัดอันดับอย่างเป็นทางการว่าอาชีพใดในประเทศไทยจะให้ผลตอบแทนและเงินเดือนสูงสุดในปี พ.ศ. 2568 อย่างไรก็ตาม มีการคาดการณ์แนวโน้มอาชีพที่น่าจับตามองและมีความต้องการสูงในตลาดแรงงาน ซึ่งอาจเป็นสัญญาณถึงรายได้และค่าตอบแทนที่สูงตามไปด้วย โดยมีอาชีพที่น่าสนใจดังนี้

*   **กลุ่มอาชีพด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT)**: ยังคงเป็นที่ต้องการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์, การวิเคราะห์ข้อมูล, ความปลอดภัยทางไซเบอร์ และปัญญาประดิษฐ์ (AI)
*   **กลุ่มอาชีพด้านการตลาดดิจิทัล**: มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจในยุคดิจิทัล อาชีพที่เกี่ยวข้อง เช่น นักการตลาดดิจิทัล, ผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO, ผู้จัดการโซเชียลมีเดีย
*   **กลุ่มอาชีพด้านสุขภาพและการแพทย์**: การดูแลสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ อาชีพที่เกี่ยวข้อง เช่น แพทย์, พยาบาล, เภสัชกร, นักกายภาพบำบัด
*   **กลุ่มอาชีพด้านวิศวกรรม**: ความต้องการวิศวกรยังคงสูงในหลายสาขา เช่น วิศวกรไฟฟ้า, วิศวกรโยธา, วิศวกรคอมพิวเตอร์
*   **กลุ่มอาชีพด้านการเงินและธนาคาร**: ผู้ที่มีความรู้ความสามารถด้านการเงินการลงทุนยังคงเป็นที่ต้องการ
*   **กลุ่มอาชีพเฉพาะทางอื่น ๆ**: เช่น ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานทางเลือก, นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล, นักวิเคราะห์ธุรกิจ

**ปัจจัยที่มีผลต่อรายได้และเงินเดือน**

*   **ทักษะและความเชี่ยวชาญ**: ผู้ที่มีทักษะเฉพาะทางและประสบการณ์สูง มักได้รับค่าตอบแทนที่สูงกว่า
*   **ความต้องการของตลาด**: อาชีพที่เป็นที่ต้องการสูงในตลาดแรงงาน มักมีแนวโน้มเงินเดือนสูง
*   **ขนาดและประเภทขององค์กร**: บริษัทขนาดใหญ่หรือบริษัทต่างชาติ มักมีสวัสดิการและเงินเดือนที่ดี
*   **สถานที่ทำงาน**: บางพื้นที่อาจมีค่าครองชีพสูง ทำให้เงินเดือนสูงตามไปด้วย

**คำแนะนำเพิ่มเติม**

*   ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดแรงงานและอาชีพที่น่าสนใจ
*   พัฒนาทักษะและความรู้ของตนเองอย่างต่อเนื่อง
*   สร้างเครือข่ายกับผู้คนในสายอาชีพ
*   พิจารณาถึงความสนใจและความถนัดของตนเองในการเลือกอาชีพ

อย่างไรก็ตาม การเลือกอาชีพไม่ควรพิจารณาเพียงแค่เรื่องของรายได้และเงินเดือนเท่านั้น แต่ควรคำนึงถึงความสนใจ ความถนัด และความสุขในการทำงานด้วย เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีความสุขและประสบความสำเร็จในระยะยาว
--------------------------------------------
ในปี 2568 อาชีพที่คาดว่าจะมีความต้องการสูงและมีรายได้ดี ได้แก่:

1. **วิศวกร AI (Artificial Intelligence Engineer):** ผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาและปรับใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ �cite�turn0search4�

2. **นักพัฒนาซอฟต์แวร์ (Software Developer):** ผู้สร้างและพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ที่ตอบสนองความต้องการของตลาด �cite�turn0search6�

3. **ผู้เชี่ยวชาญด้าน Fintech:** ผู้ที่มีความรู้และทักษะในการพัฒนาเทคโนโลยีทางการเงิน �cite�turn0search7�

4. **ผู้เชี่ยวชาญด้าน Big Data:** ผู้วิเคราะห์และจัดการข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อสร้างประโยชน์ทางธุรกิจ �cite�turn0search7�

5. **นักออกแบบ UX/UI (UX/UI Designer):** ผู้ที่ออกแบบประสบการณ์และอินเทอร์เฟซผู้ใช้ที่ใช้งานง่ายและน่าสนใจ �cite�turn0search4�

สำหรับเงินเดือนโดยประมาณในปี 2568 อาจแตกต่างไปตามประสบการณ์และตำแหน่งงาน แต่โดยทั่วไป:

- **วิศวกร AI:** ประมาณ 60,000-80,000 บาทต่อเดือน �cite�turn0search6�

- **นักพัฒนาซอฟต์แวร์:** ประมาณ 25,000-140,000 บาทต่อเดือน �cite�turn0search6�

- **ผู้เชี่ยวชาญด้าน Fintech และ Big Data:** เงินเดือนอาจสูงขึ้นตามความเชี่ยวชาญและประสบการณ์

- **นักออกแบบ UX/UI:** ประมาณ 35,000-80,000 บาทต่อเดือน �cite�turn0search0�

การเตรียมตัวและพัฒนาทักษะในด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและการวิเคราะห์ข้อมูลจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงอาชีพเหล่านี้
--------------------------------------------------

การคาดการณ์อาชีพที่ได้งานและเงินเดือนมากที่สุดในปี 2568 ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น เทคโนโลยี เศรษฐกิจโลก และความต้องการของตลาดงาน อย่างไรก็ตาม อาชีพเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมและมีรายได้สูงในอนาคต:

### 1. **อาชีพด้านเทคโนโลยีและ AI**
   - **วิศวกร AI/ML (Artificial Intelligence/Machine Learning)**: การพัฒนาปัญญาประดิษฐ์และแมชชีนเลิร์นนิงยังคงเป็นที่ต้องการสูง
   - **นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Scientist)**: การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) มีความสำคัญต่อการตัดสินใจทางธุรกิจ
   - **ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์ (Cybersecurity Specialist)**: การป้องกันข้อมูลและระบบจากภัยคุกคามทางไซเบอร์เป็นเรื่องสำคัญ

### 2. **อาชีพด้านสุขภาพและการแพทย์**
   - **แพทย์เฉพาะทาง (เช่น ศัลยแพทย์, แพทย์ด้านพันธุกรรม)**: ความก้าวหน้าทางการแพทย์และเทคโนโลยีชีวภาพจะเพิ่มความต้องการ
   - **นักวิจัยด้านชีวการแพทย์ (Biomedical Researcher)**: การพัฒนายาและวัคซีนใหม่ๆ ยังคงเป็นเรื่องสำคัญ

### 3. **อาชีพด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม**
   - **วิศวกรพลังงานทดแทน (Renewable Energy Engineer)**: การเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดจะเพิ่มความต้องการในสาขานี้
   - **ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental Specialist)**: การจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนเป็นเรื่องสำคัญ

### 4. **อาชีพด้านการเงินและธุรกิจ**
   - **ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินดิจิทัล (Fintech Specialist)**: เทคโนโลยีทางการเงินกำลังเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการเงิน
   - **ที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์ธุรกิจ (Business Strategy Consultant)**: การปรับตัวของธุรกิจในยุคดิจิทัลต้องการผู้เชี่ยวชาญ

### 5. **อาชีพด้านการบินและอวกาศ**
   - **วิศวกรการบินและอวกาศ (Aerospace Engineer)**: การสำรวจอวกาศและเทคโนโลยีการบินยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

### 6. **อาชีพด้านกฎหมายและนโยบาย**
   - **ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายเทคโนโลยี (Tech Lawyer)**: กฎหมายเกี่ยวกับเทคโนโลยีและข้อมูลเป็นเรื่องสำคัญ
   - **ที่ปรึกษาด้านนโยบายสาธารณะ (Public Policy Advisor)**: การจัดการนโยบายในยุคดิจิทัลต้องการผู้เชี่ยวชาญ

### 7. **อาชีพด้านการตลาดและสื่อ**
   - **ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดดิจิทัล (Digital Marketing Specialist)**: การตลาดออนไลน์และโซเชียลมีเดียยังคงเติบโต
   - **ผู้ผลิตเนื้อหาและครีเอเตอร์ (Content Creator/Influencer)**: การสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจบนแพลตฟอร์มออนไลน์มีมูลค่าสูง

### 8. **อาชีพด้านการศึกษาและการฝึกอบรม**
   - **ผู้เชี่ยวชาญด้านการเรียนรู้แบบออนไลน์ (E-Learning Specialist)**: การศึกษาออนไลน์และระบบการเรียนรู้ดิจิทัลกำลังขยายตัว

### สรุป
อาชีพที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี สุขภาพ พลังงานทดแทน และการเงินดิจิทัลมีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมและมีรายได้สูงในปี 2568 การพัฒนาทักษะในสาขาเหล่านี้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำงานและรายได้ในอนาคต
#96
ราคาทองไทย 45,650 บาทต่อบาท (ลุ้น 50,000)

XAUUSD 2,863  USDต่อออนซ์ ราคาขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ปีใหม่ 2568

เปิดบัญชี Standard หรือ บัญชีทดลอง ได้ที่ https://www.exness.com/a/73208

เปิด 0.01 lot = ทองคำ 1 ออนซ์ หรือ ทองคำ 1 สัญญา
#97
การเทรด (Trading) และการลงทุน (Investing) มีความแตกต่างหลักๆ ดังนี้:

1. **ระยะเวลาในการถือครอง**:
   - **เทรด**: มักจะเป็นการซื้อขายในระยะสั้น บางครั้งอาจถือครองแค่ไม่กี่นาที หรือไม่กี่วันเพื่อทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงราคาที่รวดเร็ว โดยเน้นการซื้อขายในระยะสั้น
   - **ลงทุน**: มักจะเป็นการถือครองสินทรัพย์ในระยะยาว เช่น หลายปี หรือหลายสิบปี เพื่อลงทุนในบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตหรือให้ผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาว

2. **วัตถุประสงค์**:
   - **เทรด**: มุ่งเน้นทำกำไรจากความผันผวนของราคาในระยะสั้น เช่น การเทรดหุ้น, สกุลเงิน (Forex), หรือคริปโต
   - **ลงทุน**: มุ่งหวังผลตอบแทนจากการเติบโตของบริษัทหรือทรัพย์สินในระยะยาว เช่น การลงทุนในหุ้น, กองทุน, หรืออสังหาริมทรัพย์

3. **ความเสี่ยง**:
   - **เทรด**: มักจะมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากความผันผวนของตลาดในระยะสั้นสามารถทำให้ขาดทุนได้ง่าย
   - **ลงทุน**: มักจะมีความเสี่ยงที่ต่ำกว่าในระยะยาว เพราะการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีการเติบโตอย่างมั่นคงหรือจ่ายเงินปันผลจะช่วยลดความเสี่ยง

4. **ทักษะและการวิเคราะห์**:
   - **เทรด**: ต้องการการวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) เพื่อทำนายการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ในระยะสั้น
   - **ลงทุน**: เน้นการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis) เช่น การดูงบการเงินของบริษัท, สภาพเศรษฐกิจ, หรือแนวโน้มของตลาดในระยะยาว

5. **การใช้เครื่องมือ**:
   - **เทรด**: มักจะใช้เครื่องมือทางเทคนิค เช่น กราฟราคาหุ้น, อินดิเคเตอร์ต่างๆ หรือกลยุทธ์การเทรดระยะสั้น
   - **ลงทุน**: มักจะใช้การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน เช่น การประเมินมูลค่าของบริษัทและแนวโน้มการเติบโตในอนาคต

โดยสรุปแล้ว **การเทรด** คือการซื้อขายในระยะสั้นเพื่อทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงราคาที่รวดเร็ว ส่วน **การลงทุน** คือการซื้อสินทรัพย์เพื่อถือครองในระยะยาวโดยหวังผลตอบแทนที่มั่นคงในอนาคต
----------------------------------------------------

การเทรดและการลงทุนเป็นสองแนวทางที่แตกต่างกันในการสร้างผลตอบแทนจากตลาดการเงิน แม้ว่าทั้งสองอย่างอาจดูเหมือนกัน แต่ก็มีลักษณะเฉพาะที่สำคัญที่ควรทำความเข้าใจ

## การเทรด

* **ระยะเวลา**: การเทรดมุ่งเน้นไปที่การทำกำไรในระยะสั้น โดยทั่วไปแล้วนักเทรดจะถือครองสินทรัพย์เพียงช่วงเวลาสั้นๆ อาจเป็นวัน ชั่วโมง หรือแม้แต่นาที
* **เป้าหมาย**: เป้าหมายหลักของการเทรดคือการใช้ประโยชน์จากความผันผวนของราคาในตลาดเพื่อทำกำไร นักเทรดมักจะใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อคาดการณ์การเคลื่อนที่ของราคาในอนาคต
* **ความเสี่ยง**: การเทรดมีความเสี่ยงสูงกว่าการลงทุน เนื่องจากราคาของสินทรัพย์สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วและไม่สามารถคาดการณ์ได้
* **ความรู้และทักษะ**: การเทรดต้องใช้ความรู้และทักษะในการวิเคราะห์ตลาด การอ่านกราฟ และการจัดการความเสี่ยง นักเทรดมืออาชีพมักจะมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการใช้เครื่องมือและกลยุทธ์ต่างๆ

## การลงทุน

* **ระยะเวลา**: การลงทุนมุ่งเน้นไปที่การสร้างผลตอบแทนในระยะยาว โดยทั่วไปแล้วนักลงทุนจะถือครองสินทรัพย์เป็นเวลาหลายปี
* **เป้าหมาย**: เป้าหมายหลักของการลงทุนคือการสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว นักลงทุนมักจะมองหาบริษัทหรือสินทรัพย์ที่มีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต
* **ความเสี่ยง**: การลงทุนมีความเสี่ยงน้อยกว่าการเทรด เนื่องจากนักลงทุนมีเวลาในการรอให้มูลค่าของสินทรัพย์เพิ่มขึ้น
* **ความรู้และทักษะ**: การลงทุนต้องใช้ความรู้และความเข้าใจในพื้นฐานของบริษัทหรือสินทรัพย์ นักลงทุนมักจะใช้การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเพื่อประเมินมูลค่าที่แท้จริงของสินทรัพย์

## สรุป

| คุณสมบัติ | การเทรด | การลงทุน |
|---|---|---|
| ระยะเวลา | สั้น (วัน, ชั่วโมง, นาที) | ยาว (ปี) |
| เป้าหมาย | ทำกำไรจากความผันผวนของราคา | สร้างความมั่งคั่งในระยะยาว |
| ความเสี่ยง | สูง | น้อยกว่า |
| ความรู้และทักษะ | สูง | ปานกลาง |

## คำแนะนำ

* หากคุณสนใจที่จะสร้างรายได้จากการซื้อขายสินทรัพย์ในระยะสั้น การเทรดอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสม แต่คุณต้องมีความรู้และทักษะที่จำเป็นในการวิเคราะห์ตลาดและการจัดการความเสี่ยง
* หากคุณต้องการสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว การลงทุนอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า คุณสามารถเริ่มต้นได้โดยการศึกษาพื้นฐานของการลงทุนและเลือกสินทรัพย์ที่เหมาะสมกับเป้าหมายของคุณ

## คำเตือน

* การลงทุนและการเทรดมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลและทำความเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
* ไม่มีอะไรที่แน่นอนในตลาดการเงิน ราคาของสินทรัพย์สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
* อย่าลงทุนในสิ่งที่คุณไม่เข้าใจ
#98
การลงทุนแบบ "Blue Man" หมายถึงการลงทุนในสไตล์ที่ไม่เสี่ยงเกินไป โดยจะเน้นการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำและให้ผลตอบแทนที่มั่นคง โดยมีลักษณะคล้ายกับการเลือกสินทรัพย์ที่ค่อนข้างปลอดภัย เช่น หุ้นของบริษัทใหญ่ที่มีความมั่นคงสูง หรือพันธบัตรที่มีความเสี่ยงต่ำ เป็นต้น

คำว่า "Blue Man" อาจจะมาจากคำว่า "Blue Chip" ซึ่งหมายถึงหุ้นของบริษัทที่มีความเสี่ยงต่ำ และมีผลการดำเนินงานที่ดีและเสถียรในระยะยาว โดยที่นักลงทุนจะเน้นการลงทุนในสินทรัพย์ที่สามารถให้ผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาว เช่น การลงทุนในหุ้นที่มีชื่อเสียงหรือในกองทุนรวมที่มีความหลากหลายและเสี่ยงน้อยกว่า

ดังนั้น การลงทุนแบบ Blue Man จะเป็นการลงทุนที่ไม่เน้นการเก็งกำไรหรือการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง แต่จะเน้นการสร้างความมั่นคงและผลตอบแทนที่เสถียรในระยะยาวมากกว่า
------------------------------------------------
การลงทุนแบบ Blue Man อาจหมายถึงการลงทุนในหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงและมีผลประกอบการที่มั่นคง ซึ่งมักจะเรียกว่า "หุ้นบลูชิพ" (Blue Chip Stock)

## หุ้นบลูชิพคืออะไร

*   **บริษัทขนาดใหญ่**: เป็นบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูง มีชื่อเสียง และเป็นที่รู้จักในวงกว้าง
*   **ผลประกอบการมั่นคง**: มีรายได้และกำไรที่สม่ำเสมอ มีการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง
*   **ความเสี่ยงต่ำ**: เมื่อเทียบกับหุ้นขนาดเล็ก หุ้นบลูชิพมักจะมีความผันผวนน้อยกว่า
*   **เหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาว**: เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาว

## ทำไมถึงเรียกว่า "Blue Man"

คำว่า "Blue Man" ไม่ได้เป็นคำที่ใช้กันทั่วไปในการลงทุน แต่มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะมาจากการเปรียบเทียบกับ "Blue Chip" ซึ่งเป็นคำที่ใช้เรียกหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียง ดังนั้น "Blue Man" อาจถูกใช้เพื่อสื่อถึงการลงทุนในหุ้นบลูชิพเช่นกัน

## ข้อดีของการลงทุนในหุ้นบลูชิพ

*   **ความมั่นคง**: บริษัทเหล่านี้มักจะมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ทำให้มีความเสี่ยงน้อยกว่า
*   **ผลตอบแทนสม่ำเสมอ**: มีการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นแหล่งรายได้ที่มั่นคงสำหรับนักลงทุน
*   **สภาพคล่องสูง**: หุ้นบลูชิพมักจะมีการซื้อขายในตลาดหุ้นอย่างหนาแน่น ทำให้ซื้อขายได้ง่าย

## ข้อเสียของการลงทุนในหุ้นบลูชิพ

*   **ผลตอบแทนอาจไม่สูงเท่าหุ้นขนาดเล็ก**: เนื่องจากบริษัทมีขนาดใหญ่และเติบโตเต็มที่แล้ว อัตราการเติบโตของราคาหุ้นอาจจะไม่สูงเท่าหุ้นขนาดเล็ก
*   **อาจไม่เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนสูงในระยะเวลาอันสั้น**: หากนักลงทุนต้องการผลตอบแทนที่สูงในระยะเวลาอันสั้น หุ้นบลูชิพอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด

## สรุป

การลงทุนแบบ Blue Man หรือการลงทุนในหุ้นบลูชิพ เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการความมั่นคงและผลตอบแทนที่สม่ำเสมอในระยะยาว อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลและทำความเข้าใจเกี่ยวกับบริษัทที่จะลงทุนอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ
#99
junjao.com ได้ทดสอบผ่านรอบแรกแล้ว เหลือระดับ 2

เปิดบัญชีทดลองได้ที่ https://trader.ftmo.com/?affiliates=3813

หลังจากสอบตกไป 8 รอบ รอบที่ 9 ผ่านครั้งแรก

#100
FTMO The5ers MyForexFunds / ftmo คืออะไร
Last post by junjao - February 04, 2025, 02:12:48 PM
FTMO (FTMO Challenge) คือโปรแกรมที่จัดทำโดยบริษัท FTMO ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงในด้านการเทรดฟอเร็กซ์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Futures) โดยโปรแกรมนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อค้นหาผู้เทรดที่มีทักษะในการบริหารจัดการการเทรดอย่างมีประสิทธิภาพ และให้โอกาสกับผู้ที่ผ่านการทดสอบในการเทรดบัญชีที่มีขนาดใหญ่โดยใช้ทุนของ FTMO

เปิดบัญชีทดลองได้ที่ https://trader.ftmo.com/?affiliates=3813

การเข้าร่วม FTMO Challenge จะมีขั้นตอนดังนี้:
1. **การลงทะเบียน**: ผู้ที่สนใจต้องจ่ายค่าธรรมเนียมสำหรับการเข้าร่วม FTMO Challenge ซึ่งมีหลายระดับที่แตกต่างกันตามขนาดบัญชีที่ต้องการ
2. **ทดสอบการเทรด**: ในการทดสอบนี้ ผู้สมัครจะต้องทำการเทรดในบัญชีที่ FTMO มอบให้ โดยต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของโครงการ เช่น จำกัดการขาดทุนและเป้าหมายกำไรที่ต้องทำให้ได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด
3. **การตรวจสอบ**: หากผู้สมัครสามารถผ่านการทดสอบได้สำเร็จ จะได้รับการเสนอให้เปิดบัญชีจริงกับ FTMO โดย FTMO จะเป็นผู้จัดหาทุนให้ ซึ่งผู้ที่ได้รับทุนสามารถเริ่มทำการเทรดและแบ่งผลกำไรกับ FTMO ได้

โปรแกรมนี้ได้รับความนิยมจากเทรดเดอร์หลายคนที่ต้องการขยายขนาดการเทรดโดยไม่ต้องเสี่ยงเงินทุนของตัวเอง
--------------------------------------------------

FTMO คือบริษัทซื้อขายหลักทรัพย์ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2015 โดยมีเป้าหมายที่จะร่วมมือกับผู้ซื้อขายที่มีความมุ่งมั่นในการใช้ข้อมูลที่พวกเขาให้ไว้เกี่ยวกับกิจกรรมของพวกเขา และรับรางวัลสำหรับผลงานในบัญชีเงินเสมือนจริง หรือบัญชี FTMO

FTMO เป็นที่รู้จักในด้านการให้บริการแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ทันสมัย และเครื่องมือวิเคราะห์ที่ช่วยให้ผู้ซื้อขายสามารถพัฒนาทักษะและกลยุทธ์ของตนเองได้ นอกจากนี้ FTMO ยังมีการจัดกิจกรรมและการแข่งขันที่เปิดโอกาสให้ผู้ซื้อขายได้แสดงความสามารถและรับรางวัล

FTMO มีชื่อเสียงในด้านความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือ โดยมีการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับผลการดำเนินงานและสถิติการซื้อขายอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ FTMO ยังมีทีมงานสนับสนุนลูกค้าที่พร้อมให้ความช่วยเหลือและตอบคำถามของผู้ซื้อขาย

FTMO เป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพัฒนาทักษะการซื้อขายและแสวงหาโอกาสในการทำกำไรในตลาดการเงิน โดยมีเครื่องมือและทรัพยากรที่หลากหลายเพื่อสนับสนุนผู้ซื้อขายในการบรรลุเป้าหมายของพวกเขา